HotTopic

ชุดจิตอาสาชุมชนสัมพันธ์ สภ.ยะรม ร่วมสร้างสันติสุขในช่วงเดือนรอมฎอน มอบถุงยังชีพให้กับประชาชน ผู้ยากไร้ ผู้พิการ และเด็กกำพร้า วันนี้ 28 มี.ค.66 พ.ต.ท.ต่อพันธุ์ ปุสันเทียะ สารวัตรใหญ่ สภ .ยะรม ได้มอบหมายให้ชุดจิตอาสาชุมชนสัมพันธ์ สภ.ยะรม ร่วมกับผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 7 ต.ยะรม อ.เบตง จ.ยะลา ลงพื้นที่มอบถุงยังชีพให้กับประชาชน ผู้ยากไร้ ผู้พิการ และเด็กกำพร้า ในพื้นที่ตำบลยะรม เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนและส่งความรัก ความปรารถนาดี ลดช่องว่างระหว่างชนชั้น ตลอดจนร่วมสร้างสันติสุขในช่วงเดือนรอมฎอน ส่งเสริมให้ชาวไทยมุสลิมปฏิบัติศาสนกิจด้วยการถือศีลอดตามหลักศาสนาอิสลามยึดมั่นในความดีงาม ความเมตตา และการให้อภัย เพื่อการอยู่ร่วมกันในสังคมอย่างมีความสุข ที่มา ThaiNews

ซาอุดีอาระเบียประณามการเผาคัมภีร์อัลกุรอานและธงชาติตุรกีโดยกลุ่มหัวรุนแรงที่เกลียดกลัวอิสลามในเดนมาร์ก จอร์แดน คูเวต และกาตาร์ กล่าวต่อต้านการกระทำของกลุ่มหัวรุนแรง โดยกล่าวว่าการกระทำดังกล่าวกระตุ้นให้เกิดความเกลียดชังต่อชาวมุสลิม โดยเฉพาะในช่วงเดือนรอมฎอน Patrioterne Gar กลุ่มต่อต้านชาวมุสลิมที่อยู่ขวาสุดเผยแพร่ไลฟ์สดบน Facebook(เฟสบุค) ของผู้สนับสนุนที่ถือป้ายข้อความ ที่มีข้อความเกลียดกลัวอิสลาม ขณะที่พวกเขาเผาคัมภีร์อัลกุรอานและธงชาติตุรกีหน้าสถานทูตตุรกีในกรุงโคเปนเฮเกน กระทรวงต่างประเทศตุรกีประณามเหตุการณ์ดังกล่าวว่าเป็นอาชญากรรมจากความเกลียดชัง” และเสริมว่าจะไม่ยอมรับ “การกระทำที่เลวทรามเช่นนี้ที่ได้รับอนุญาตภายใต้หน้ากากของเสรีภาพในการแสดงออก และกระทรวงเรียกร้องให้ทางการเดนมาร์กดำเนินการต่อผู้ที่รับผิดชอบและเพื่อให้แน่ใจว่าเหตุการณ์ต่อไปจะไม่เกิดขึ้น ที่คุกคามความปรองดองทางสังคมและการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ Sinan Majali โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจอร์แดนและชาวต่างชาติกล่าวว่าการกระทำดังกล่าวปลุกระดมความเกลียดชังและการเหยียดเชื้อชาติ การเผาอัลกุรอานเป็นการกระทำที่แสดงความเกลียดชังอย่างร้ายแรงและเป็นการแสดงให้เห็นถึงความหวาดกลัวอิสลามที่ปลุกระดมให้เกิดความรุนแรงและการดูหมิ่นศาสนา และไม่สามารถถือเป็นรูปแบบหนึ่งของเสรีภาพในการแสดงออกได้เลย และเรียกร้องให้ทางการเดนมาร์กป้องกันไม่ให้เกิดการกระทำเช่นนี้ซ้ำอีก ซึ่งเป็นการ “จุดชนวนความรุนแรงและความเกลียดชัง และคุกคามการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ” ในขณะเดียวกัน ในแถลงการณ์ของกระทรวงต่างประเทศคูเวตเตือนว่าการเผาคัมภีร์อัลกุรอานเสี่ยงที่จะกระตุ้นให้ชาวมุสลิมทั่วโลกโกรธเคือง ทางกระทรวงเรียกร้องให้ผู้กระทำความผิดต้องรับผิดชอบ โดยตรวจสอบให้แน่ใจว่า “เสรีภาพในการแสดงออกจะไม่ถูกใช้เพื่อรุกรานอิสลามหรือศาสนาอื่นใด” และกาตาร์ประณามการเผาอัลกุรอานด้วย “เงื่อนไขที่รุนแรงที่สุด” พร้อมเตือนว่าเหตุการณ์ล่าสุดเป็น “การยกระดับที่อันตราย” ของเหตุการณ์ที่มีเป้าหมายเป็นชาวมุสลิม กระทรวงการต่างประเทศกาตาร์กล่าวว่าการเผาคัมภีร์อัลกุรอานภายใต้การเรียกร้องเสรีภาพในการแสดงออก “เป็นการคุกคามคุณค่าของการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ และเผยให้เห็นถึงสองมาตรฐานที่น่ารังเกียจ”

พันเอก ทวีรัตน์ เบญจาทิกุล ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 45 กล่าวว่า ทางหน่วยฯ ซึ่งรับผิดชอบพื้นที่อำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาส ได้ปรับเปลี่ยนจุดตรวจ/ด่านตรวจ หน้าฐานปฏิบัติการเป็นจุดอำนวยความสะดวก ในช่วงเดือนรอมฎอนนี้ ช่วงเวลาตั้งแต่ 16.00-18.00 น. ของทุกวัน ซึ่งเป็นช่วงที่ประชาชนจำนวนมาก จะออกมาจับจ่ายซื้อหาอาหารเพื่อเตรียมการละศีลอดในแต่ละวัน พร้อมนี้ได้นำอินทผลัมและน้ำดื่มมามอบให้กับประชาชนบริเวณจุดอำนวยความสะดวก เพื่อสนับสนุนให้การปฏิบัติศาสนกิจและการดำรงชีวิตตามวิถีทางที่ดีงามของศาสนาในห้วงเดือนรอมฎอนเป็นไปอย่างราบรื่นและเป็นปกติมากที่สุด ที่สำคัญยังเป็นการสร้างความรู้สึกที่ดีของประชาชนที่มีต่อฝ่ายรัฐ อันจะทำให้เกิดบรรยากาศที่เกื้อกูลต่อการสร้างสันติสุขในพื้นที่อย่างยั่งยืนต่อไป ที่มา ThaiNews

หน่วยงานกิจการสตรีที่ฝ่ายประธานทั่วไปฝ่ายกิจการมัสยิดของท่านศาสดาได้จัดเตรียมน้ำซัมซัมจำนวน 2 ล้านขวดเพื่อแจกจ่ายให้กับสตรีที่มาในช่วงเดือนรอมฎอน พนักงานหญิงกว่า 1,000 คนจากหน่วยงานและบริษัทต่างๆ ที่ปฏิบัติงานในมัสยิด รวมถึงอาสาสมัคร 22 ทีมจะเสิร์ฟเครื่องดื่มเพื่อให้ผู้มาเยือนสามารถประกอบพิธีกรรมได้อย่างสบายใจ หน่วยงานของผู้หญิงมีความกระตือรือร้นที่จะให้การสนับสนุนผู้หญิงที่มาเยี่ยมเยียนและการประสานงานอย่างต่อเนื่องกับผู้เข้าร่วมทั้งหมดเพื่อปรับปรุงบริการที่มีให้ ที่มัสยิดของท่านศาสดา

ผบ.ฉก.ยะลา มอบน้ำดื่มพร้อมอินทผลัม แก่ประชาชน เพื่อใช้ในการละศีลอด ห้วงเดือนรอมฎอน ฮ.ศ.1444 ที่ด่านตรวจขุนไวย์ ตำบลสะเตง อำเภอเมือง จังหวัดยะลา พลตรี ธนัช ฉิมพาลี ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจยะลา ลงพื้นที่มอบอินทผลัมและน้ำดื่มให้กับพี่น้องประชาชนชาวมุสลิม ที่สัญจรผ่านด่านได้นำอินทผลัมไปรับประทานในช่วงการละศีลอด (เปิดบวช) หลังพระอาทิตย์ตกดิน ซึ่งอินทผลัมนั้น ชาวมุสลิมถือว่าเป็นผลไม้ที่พระผู้เป็นเจ้าประทานให้ ชาวมุสลิมนิยมรับประทานอินทผลัมในช่วงเดือนถือศีลอด หรือ เดือนรอมฎอน เนื่องจากในคัมภีร์อัลกุรอานได้บัญญัติไว้ว่าสามารถละศีลอดด้วยการกินอินทผลัมแทนการดื่มน้ำได้เพื่อช่วยลดอาการอ่อนเพลียในช่วงอดอาหาร สำหรับการมอบอินทผลัมในครั้งนี้ เพื่อเป็นการสนับสนุนการประกอบศาสนกิจในห้วงเดือนรอมฎอน ของพี่น้องชาวไทยมุสลิม พร้อมทั้งอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนใช้รถบนท้องถนน มีความปลอดภัย ตลอดจนเป็นการสร้างความสัมพันธ์อันดี สร้างรอยยิ้ม และความประทับใจให้กับประชาชนในพื้นที่ ที่สัญจรไป-มา เป็นอย่างมาก ที่มา ThaiNews

ยูเอ็นเผยเด็กอายุต่ำกว่า 5 ขวบ กว่า 540,000 คนในเยเมนกำลังทุกข์ทรมานจากภาวะทุพโภชนาการเฉียบพลันรุนแรงที่คุกคามถึงชีวิต และเด็กหนึ่งคนเสียชีวิตทุกๆ 10 นาทีจากสาเหตุที่ป้องกันได้ ยูนิเซฟ(UNICEF) หน่วยงานด้านเด็กของยูเอ็น เตือนว่าอาจถูกบีบให้ต้องตัดเงินช่วยเหลือเด็กในเยเมนโดยไม่สนับสนุนเงิน ยูนิเซฟกล่าวว่าเด็กทั้งหมด 11 ล้านคนต้องการความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม ระบุว่าต้องการความช่วยเหลือ 484 ล้านดอลลาร์(ประมาณ16,499,560,000บาท(หนึ่งหมื่นหกพันสี่ร้อยเก้าสิบเก้าล้านห้าแสนหกหมื่นบาท)) เพื่อดำเนินการต่อในปีนี้ แต่สหประชาชาติระดมเงินเพียง 1.2 พันล้านดอลลาร์สำหรับหน่วยงานทั้งหมดของตนในเยเมนในการประชุมให้คำมั่นที่สวิตเซอร์แลนด์เมื่อเดือนที่แล้ว ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมาย 4.3 พันล้านดอลลาร์ ช่องว่างด้านเงินทุนที่ UNICEF ยังคงเผชิญอยู่ตั้งแต่ต้นปี 2022 จนถึงปี 2023 ทำให้การตอบสนองด้านมนุษยธรรมที่จำเป็นสำหรับเด็กในเยเมนตกอยู่ในความเสี่ยง หากไม่ได้รับเงินสนับสนุน ยูนิเซฟอาจถูกบีบให้ลดขนาดความช่วยเหลือที่สำคัญสำหรับเด็กที่เปราะบางลง” ความขัดแย้งในเยเมนเริ่มขึ้นในปี 2014 เมื่อกลุ่มอาสาสมัคร Houthi ที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่านเข้ายึดเมืองหลวง Sanaa ในการทำรัฐประหาร...

ชาวไทยมุสลิมใน อ.เบตง จ.ยะลา ออกมาจับจ่าย อาหารสดประเภทเนื้อวัว ไก่ ปลา กันอย่างคึกคัก เตรียมนำไปประกอบอาหารมื้อแรกในการละศีลอด ด้านเจ้าหน้าที่ความมั่นคงเพิ่มความเข้มในการดูแลความปลอดภัย ในห้วงเดือนรอมฎอน สร้างความเชื่อมั่น และสร้างความอบอุ่นใจแก่ประชาชน วันนี้ (23 มี.ค.66) บรรยากาศบริเวณตลาดนัดบันนังซิแน ตำบลยะรม อำเภอเบตง จังหวัดยะลา ในวันแรกเข้าสู่เดือนรอมฎอนชาวไทยมุสลิมต่างเดินทางออกมาจับจ่ายซื้อสินค้า ซื้อวัตถุดิบเพื่อนำไปเป็นอาหารมื้อแรก ในการละศิลอดวันแรกของเดือนรอมฎอน ก่อนจัดเตรียมเป็นอาหารละศีลอดในช่วงเย็น กันอย่างคึกคัก โดยเฉพาะอาหารสดประเภทเนื้อวัว ไก่ ปลา ขายดี เนื่องจากราคายังเท่าเดิมทำให้ประชาชน โดยเฉพาะพี่น้องอาชีพเกษตรกรที่ประสบปัญหาราคาพืชผลทางการเกษตรตกต่ำ มีกำลังซื้อได้แต่ก็เลือกซื้อในสิ่งจำเป็นต่อการปฏิบัติศาสนกิจในการละศีลอดของพี่น้องชาวมุสลิม น.ส.อรยา แม่ค้า บอกว่า อาหารสดประเภทเนื้อวัว ไก่ ปลา ส่วนใหญ่แล้วยังไม่มีการปรับราคา อย่างเช่นเนื้อวัว กิโลกรัมละ...

ประกาศจุฬาราชมนตรี วันที่ 1 ของเดือนรอมฎอน ฮิจเราะห์ศักราช 1444 ตรงกับวันพฤหัสบดีที่ 23 มีนาคม พ.ศ.2566

รวมพลังมวลชนปล่อยลูกโป่งขาว ก้าวสู่รอมฎอนสันติสุข แม่ทัพภาคที่ 4 ย้ำมาตรการรักษาความปลอดภัย พร้อมเชิญชวนทุกคนร่วมแต่งกายแสดงอัตลักษณ์ท้องถิ่น สร้างสีสันให้บรรยากาศรอมฎอนนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศที่มัสยิดกลางจังหวัดปัตตานี กลุ่มพลังมวลชนผู้นำศาสนา ผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่น ส่วนราชการ ตลอดจนประชาชน เยาวชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ กว่า 300 คน ร่วมปล่อยลูกโป่งสีขาว พร้อมแสดงป้ายปฏิเสธความรุนแรงขึ้นสู่ท้องฟ้า โดยมีพลโท ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4/ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 เป็นประธานร่วมปล่อยลูกโป่งและเปิดกิจกรรม "เส้นทางสู่รอมฏอนสันติสุข" ต้อนรับเดือนรอมฎอนอันประเสริฐ ประจำปีฮิจเราะห์ศักราช 1444 พร้อมกันนี้แม่ทัพภาคที่ 4 มอบสิ่งของอุปโภค บริโภคที่จำเป็น อาทิ อินทผาลัม เครื่องดื่มน้ำหวานใช้ในการละศีลอดให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรม และนำไปแจกจ่ายให้กับประชาชน นับเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญ...

พลโท ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4/ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 และคณะ เดินทางพบปะเยี่ยมให้กำลังใจ กับครอบครัว ดร.ปรีดี มะนีวัน ที่ปรึกษาสมาคมเพื่อสันติภาพชายแดนใต้ (POSBO)/นักวิชาการวัฒนธรรมชำนาญการ สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดปัตตานี ที่บ้านเลขที่ 160 หมู่ที่ 5 ตำบลยะรัง อำเภอยะรัง จังหวัดปัตตานี พร้อมมอบอินทผาลัม เครื่องอุปโภค บริโภค ที่ใช้สำหรับการละศีลอด โอกาสนี้แม่ทัพภาค ที่ 4 ได้พูดคุยให้กำลังใจกับครอบครัว โดยระบุว่า การเดินทางมาเยี่ยมเยียนครั้งนี้ ก็มาให้กำลังใจ อวยพร เนื่องในโอกาสที่จะเข้าสู่เดือนรอมฎอนที่จะมาถึง ซึ่งตลอดระยะเวลา 1 เดือน ก็จะต้องถือศีลอดและปฏิบัติศาสนกิจต่างๆ ขอให้ครอบครัวประสบแต่ความสุข ให้เดือนรอมฎอนเป็นเดือนแห่งการเปลี่ยนแปลงและเป็นที่รักของทุกคน ทั้งนี้...