admin
สร้างข้อความตอบกลับฟอรั่มแล้ว
-
ผู้เขียนข้อความ
-
ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนทีมงานและสังคมมุสลิม
แค่สมัครรับหนังสือพิมพ์กัมปงไทย 1 ปี 12 ฉบับ เพียง 200 บาทเท่านั้น
อินบ็อกซ์สมัครสมาชิกกัมปงไทยได้เลยค่ะ
โทร 0863557201 หรือ 025592297
Line id : kampongthai
email : cs@thaimuslim.com
หรือ อินบอกซ์ที่ https://www.facebook.com/thaimuslim/การทำบ้านเช่าหรือห้องเช่า ไม่ถือเป็นการต้องห้าม เพราะโดยข้อเท็จจริงเราคงไม่ต้องไปสอบถามทุกคนที่เข้ามาพักสองคนว่าแต่งงานกันหรือยัง เป็นมุสลิมหรือไม่ แต่ถ้ารู้แน่ชัดว่าทั้งสองยังไม่แต่งงานกัน เพราะเป็นคนที่เรารู้จักดี กรณีก็ให้ปฏิเสธการเข้าพัก เพราะอาจจะถูกข้อหาส่งเสริมประพฤติผิดทางเพศได้ ถึงอย่างไรก็ตามก็ไม่ส่งผลทำให้การทำธุรกิจห้องเช่าต้องห้ามไปด้วย (วัลลอฮุอะอฺลัม)
หมูและทุกส่วนของหมูในหลักการทางศาสนาอิสลามถือว่าเป็นนะยิสมุฆอลละเซาะห์(ปฏิกูลหนัก) หนังของมันไม่อาจฟอกให้สะอาด(ตอฮาเราะห์)ได้ ดังนั้น รองเท้าที่ทำจากหนังหมูจึงถือเป็นนะยิส เมื่อเป็นนะยิสการซื้อการขายก็ไม่เป็นที่อนุญาตด้วย ส่วนจะนำมาใช้ก็ถือว่าเป็นการใช้นะยิส ซึ่งต้องล้างให้สะอาดก่อนที่จะทำการละหมาด เพราะเงื่อนไขของการละหมาดต้องมีความสะอาดทั้งร่างกาย เสื้อผ้า และสถานที่ (วัลลอฮุอะอฺลัม)
การใช้กำยานเป็นการใช้ของหอมอย่างหนึ่งซึ่งศาสนาส่งเสริมให้ใช้ของหอม สำหรับการใช้กำยานเมื่อมีคนตาย ยังไม่พบหลักฐานให้ใช้หรือห้ามใช้ ส่วนที่มาและเหตุผลน่าจะเป็นการใช้ของหอมเพื่อดับกลิ่นซึ่งอาจเกิดจากผู้ตายก็ได้ จึงไม่น่าจะเป็นการต้องห้ามแต่ประการใด (วัลลอฮุอะอ์ลัม)
ขอขอบคุณ อ.ซารีฟ (ประสาน) ศรีเจริญ ที่ช่วยชี้แจงคำถาม
ไม่พบหลักฐานที่อิสลามห้ามเลี้ยงแมวสีดำ โดยหลักการแล้วอิสลามมิได้ห้ามเลี้ยงแมวไม่ว่าสีอะไร เพราะในสมัยท่านศาสดาก็มีการเลี้ยงแมวและท่านศาสดาก็บอกว่า “แมวคือสัตว์เลี้ยงที่วนเวียนอยู่กับมนุษย์”
ส่วนที่มีข้อกังขาเรื่อง “แมวสีดำ” นั้น เข้าใจว่า มีบางท่านอ้างว่า “ไซฏอน” อาจปลอมเป็นแมวสีดำ เมื่อเลี้ยงแมวสีดำก็เท่ากับเลี้ยงไซฏอนนั่นเอง ซึ่งข้ออ้างนี้ไม่มีหลักฐานทางศาสนายืนยัน (อัลเลาะห์ทรงรอบรู้ยิ่ง)ขอขอบคุณ อ.ซารีฟ (ประสาน) ศรีเจริญ ที่ช่วยชี้แจงคำถาม
มกราคม 5, 2017 ที่ 10:31 pm เพื่อตอบกลับ: ถ้ามุสลิมจะไปรายการท้าผีเพื่อหวังเงินรางวัลมีการจุดธูปเราแข่งได้หรือไม่ #496การจะได้เงินมานั้นก็ต้องเป็นงานที่ถูกต้องตามหลักศาสนา หากได้เงินมาโดยต้องกระทำสิ่งที่ผิดต่อศาสนาถือว่าเงินที่ได้มานั้นก็ต้องไม่ถูกต้องด้วย ข้อแนะนำกรณีก็คือ อย่าไปร่วมแข่งท้าผีเลย การอ้างว่า “ในใจไม่ได้ไปเคารพผีหรือที่เราไหว้นั้น”เป็นการอ้างที่เกิดหลังจากเราได้ตัดสินใจมีเจตนาตั้งแต่แรกแล้วว่าจะไปร่วมรายการซึ่งมีรูปแบบที่รู้มาก่อนแล้ว จึงฟังแล้วขัดกันยังไงพิกล
ขอขอบคุณ อ.ซารีฟ (ประสาน) ศรีเจริญ ที่ช่วยชี้แจงคำถาม
มกราคม 5, 2017 ที่ 10:30 pm เพื่อตอบกลับ: เด็กมุสลิมคนหนึ่งชอบพูดคำว่า “โธ่เอ้ย!ตกศาสนาจริงหรือไม่ อย่างไร #495คำว่า “โธ่เอ้ย” เสียงเปล่งแสดงความอนาถใจหรือน่าสงสาร เป็นคำอุทานของชาวพุธ แสดงถึงสิ่งที่เขาเคารพนับถือซึ่งเกิดมาจากห้วงลึกของจิต เมื่อเกิดตกใจก็จะเปล่งออกมาโดยอัตโนมัตเหมือนกับมุสลิมที่เมื่อตกใจก็จะอุทานออกมาว่า “อัลเลาะห์” เป็นต้น ดังนั้น มุสลิมไม่ควรกล่าวคำนี้แต่ให้กล่าวคำว่าอัลเลาะห์แทน ส่วนเมื่อกล่าวแล้วจะถึงกับตกศาสนานั้นผมเห็นว่าหนักไปหน่อย เพราะส่วนใหญ่จะกล่าวโดยไม่ตั้งใจมันออกมาเองด้วยความเคยชินหรือตามเพื่อน เช่นเดียวกับมุสลิมโดยเฉพาะชาวอาหรับมักติดคำว่า “วัลลอฮิ” ซึ่งเป็นคำสาบาน มีข้อกำหนดชัดเจนว่าจะกล่าวเมื่อใดและกล่าวแล้วจะเป็นเช่นไร แต่อาหรับจะกล่าวติดปากโดยเฉพาะคนค้าขาย คนไปมักกะห์จะได้ยินบ่อย เขากล่าวคำสาบานโดยไม่ได้ตั้งใจจึงไม่อยู่ในข่ายต้องรับผิดชอบต่อคำสาบานนั้น(อินซาอัลเลาะห์) สรุปว่า การกล่าวคำว่าโธ่เอ้ย มุสลิมไม่ควรเอาอย่าง และถ้ากล่าวโดยไม่ได้ตั้งใจก็ไม่ถึงกับตกศาสนาหรอก(วัลลอฮุอะอ์ลัม)
ขอขอบคุณ อ.ซารีฟ (ประสาน) ศรีเจริญ ที่ช่วยชี้แจงคำถาม
-
ผู้เขียนข้อความ